INGERSOLL

Ingersoll

Ingersoll Cutting Tool ผู้ผลิตเครื่องมือตัดเฉือนโลหะชั้นแนวหน้าของโลก ด้วยการสรรค์สร้างที่สุดแห่งนวัตกรรมและผลิตภาพในการตัดเฉือนโลหะตลอดมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1889 โดยในปัจจุบันมีโรงงานผลิตอยู่ 3 แห่ง ตั้งอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา 1 แห่ง และในประเทศเยอรมันนี 2 แห่ง

Ingersoll เป็นผู้ริเริ่มพัฒนาเม็ดมีด (Insert) ประเภทถอดเปลี่ยนได้เพื่อใช้ทดแทนคาร์ไบด์เอนมิลและเป็นผู้กำหนดค่าของมุมเม็ดมีด ที่ต่อมาได้เป็นมาตรฐานสากล ปัจจุบัน Ingersoll Cutting Tools คือผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ประเภทมิลลิ่ง (milling) ที่มีความหลากหลายมากที่สุดในโลก ด้วยทรัพยากรทางเทคโนโลยีร่วมกันของกลุ่มบริษัท IMC จึงสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อกระบวนการตัดเฉือนโลหะได้อย่างน่าทึ่ง

Ingersoll เป็นมากกว่าผู้ผลิตเครื่องมือ แต่เป็นคู่คิดที่ช่วยพัฒนากระบวนการทำงานร่วมกัน เป้าหมายก็คือ ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับลูกค้า ให้มีต้นทุนการผลิตโดยรวมต่ำที่สุด

Product High light

  • Octoplus ( Face Milling )
  • Shoulder milling
  • Gold Max 6
  • Gold Max 8
  • Mold & DieForm Master Plus: Round insert (Positive)
  • Form Master: Round insert (Negative)
  • High Feed Deka
  • Hi Feed Mini
  • Form Master V: Modern Cutting Tools
  • Extension holder system

Octoplus ( Face Milling )

Octoplus ( Face Milling ) คือ หัวปาดรุ่นใหม่ล่าสุดที่มีจำนวนมุมมากถึง 16 มุมซึ่งมากที่สุดในโลกในเวลานี้ แม้ว่าจะมีผู้ผลิตหลายรายต่างก็ผลิตเม็ดมีด (Insert) 16 มุมออกมาแข่งขันกัน แต่ Octoplus มีดีไซน์เม็ดมีด (Insert)ที่มีทั้งความแข็งแรงและความคมในเม็ดเดียวกัน จึงสามารถกัดงานได้อย่างรวดเร็ว อายุการใช้งานยาวนานอีกทั้งไม่เกิดการสะท้านอีกด้วย เนื่องจากการออกแบบหน้าเม็ดมีด (Insert)ที่มีความคม และช่วยในการหักเศษได้ดีแม้จะกัดงานที่มีความเหนียวมากอย่างสแตนเลสหรือเหล็กที่มีส่วนผสมของนิกเกิล หรือแม้กระทั่งวัสดุชิ้นส่วนอากาศยาน คุณสมบัติพื้นฐานและข้อดีของเม็ดมีด (Insert)รุ่น Octoplus มีดังนี้

  • กินลึกได้สูงสุดถึง 5 มิลลิเมตร
  • มีจำนวนมุมเม็ดมีด (Insert)มากถึง 16 มุม
  • มีเกรดเม็ดมีดที่เหมาะกับวัสดุหลายประเภท เช่น เหล็กเหนียว, เหล็กหล่อ หรือ วัสดุโลหะที่ไม่ใช่เหล็ก เช่น อลูมิเนียม
  • Holder มี 2 ประเภท คือ จำนวนฟันปกติกับจำนวนฟันมาก โดยทั่วไปมักจะใช้กัดงานประเภทเหล็กหล่อที่มีเศษสั้น
  • ระบบการยึดเม็ดมีด (Insert)มี 2 ระบบให้เลืกใช้ คือ แบบสกรูและแบบ wedge ซึ่งจะล็อคเม็ดมีด (Insert)ได้มั่นคงแข็งแรงโดยเฉพาะเมื่อใช้ Holder ที่มีขนาดใหญ่ซึ่งต้องการความแข็งแรงสูงกว่าปกติ และถอดเปลี่ยนเม็ดมีด (Insert)ได้สะดวกเพียงคลายล็อคนิดเดียวก็เปลี่ยนเม็ดได้อย่างง่ายดาย
  • เม็ดมีด (Insert)สำหรับเก็บละเอียด หรือเม็ด Wiper นั้น นอกจากมีหน้าแลนด์หรือระยะกัดงานกว้างแล้ว เม็ด Wiper ยังผ่านกระบวนการเจียระไนมาอีกด้วย เพื่อให้มีความคมเป็นพิเศษ จึงช่วยปรับปรุงผิวงานได้อย่างยอดเยี่ยม
  • Holder มีทั้งระบบกินงานทางซ้ายและทางขวา

Shoulder milling

Shoulder milling การกัดงานบ่าฉาก 90Oนั้นมีการวางเม็ดมีด (Insert) อยู่ 2 ลักษณะ คือ วางเม็ดในแนวรัศมีของโฮลเดอร์ กับ วางเม็ดในแนวเส้นรอบวง หรือที่เรียกกันว่าTangential ซึ่ง Ingersoll Cutting Tool มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ และการวางเม็ดแบบ Tangential นี้มีคุณประโยชน์หลายอย่างดังเช่น EVOTEC Shoulder Milling คือ เม็ดมีดประเภท Tangential ที่ถูกพัฒนามาโดยลำดับ เหมาะกับงานกัดบ่าฉากที่ต้องการความแม่นยำสูงและอายุการใช้งานที่ยาวนาน ด้วยดีไซน์ที่มีความโดดเด่นดังนี้

  • ควบคุมผิวงานด้านข้างให้ได้ค่าความฉากที่แม่นยำกว่าการวางเม็ดแนวรัศมีแบบทั่วไป อีกทั้งผิวงานด้านล่างก็ได้ความเรียบที่ดีกว่า
  • การใส่และถอดเม็ดทำได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากสกรูวางตัวในแนวตั้งฉากกับเส้นรอบวงของโฮลเดอร์ การใช้ประแจขันสกรูจึงทำได้อย่างอิสระ ไม่ติดขัด
  • ขณะทำการตัดเฉือน เศษของโลหะที่ได้จากตัดเฉือนซึ่งมีความร้อนสูงจะถูกระบายออกโดยไม่สัมผัสสกรู จึงไม่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่สกรู ส่งผลให้เม็ดมีด (Insert)ยังคงถูกจับยึดอยู่อย่างแข็งแรงมั่นคง เม็ดมีด (Insert) จึงใช้งานได้นาน
  • ระยะการสึกหรอของเม็ดมีดแบบ Tangential มีมากกว่าเม็ดมีด (Insert) แนวรัศมีทั่วไป ดังนั้นแม้เม็ดมีด (Insert) จะสึกหรอเท่ากัน ซึ่งเป็นระยะการสึกหรอที่เม็ดแนวรัศมีทั่วไปไม่สามารถใช้งานต่อได้แล้ว แต่เม็ด Tangential ก็ยังสามารถใช้งานต่อได้อีกนาน
  • การวางเม็ดแบบ Tangential นี้ จะใช้สันเม็ดในการกัดงาน แรงต้านที่เกิดขึ้นกับเม็ดมีด (Insert) จะส่งผ่านตามแนวสันเม็ดไปยังโฮลเดอร์โดยตรง ซึ่ง EVOTEC Shoulder Millingถูกออกแบบมาให้มีหน้าสัมผัสเรียบแนบกับโฮลเดอร์ จึงแข็งแรงกว่า อายุการใช้งานยาวนานกว่า ซึ่งแตกต่างกับเม็ดมีด (Insert) แนวรัศมีแบบทั่วไปที่ขณะทำการตัดเฉือน แรงต้านจะเกิดขึ้นที่เม็ดและเกิดการบิดตัวได้ง่ายไปยังมุมเม็ดมีด (Insert) ด้านทแยงมุม อายุการใช้งานจึงน้อยกว่า และสกรูเกิดการคลายตัวได้ง่ายอีกด้วย
  • เม็ดมีด (Insert) แนวรัศมีทั่วไป เมื่อกัดงานไปสักระยะหนึ่งจะเกิดการสึกหรอ ส่งผลให้มุม R มีขนาดใหญ่ขึ้น เมื่อยังคงกัดงานต่อไประดับของพื้นผิวชิ้นงานจะสูงขึ้นกว่าตอนเริ่มต้น แต่เม็ดTangential ซึ่งวางเม็ดในแนวสันมีดนั้น แม้มุม R จะสึกหรอและใหญ่ขึ้นเช่นเดียวกัน แต่ก็ไม่ส่งผลกับระดับพื้นผิวของชิ้นงาน
  • แม้เดินSlot เม็ด Tangential ก็เกิดครีบน้อยกว่าเม็ดมีด (Insert) ทั่วไป
  • สามารถกินลึกได้เกือบเท่ากับระยะความสูงของเม็ด

Gold Max 6

Gold Max 6 เป็นเม็ด Tangential ที่ใช้งานได้ประหยัดมากยิ่งขึ้นด้วยมุมเม็ดมีด (Insert)ที่มากถึง 6 มุมและด้วยดีไซน์พื้นที่สัมผัสระหว่างเม็ดมีด (Insert)กับโฮลเดอร์เป็นแบบ Dove tail หรือหางเหยี่ยว ช่วยเพิ่มความมั่นคงแข็งแรงในการจับยึดให้แน่นหนาขึ้น

 

Gold Max 8

Gold Max 8 มีความคล้ายคลึงกับ GOLD Max 6 ต่างกันตรงที่ สามารถใช้ได้มากถึง 8 มุม ช่วยประหยัดต้นทุนของเม็ดมีด (Insert) ได้อย่างมาก

  • ควบคุมผิวงานด้านข้างให้ได้ค่าความฉากที่แม่นยำกว่าการวางเม็ดแนวรัศมีแบบทั่วไป อีกทั้งผิวงานด้านล่างก็ได้ความเรียบที่ดีกว่า
  • การใส่และถอดเม็ดทำได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากสกรูวางตัวในแนวตั้งฉากกับเส้นรอบวงของโฮลเดอร์ การใช้ประแจขันสกรูจึงทำได้อย่างอิสระ ไม่ติดขัด
  • ขณะทำการตัดเฉือน เศษของโลหะที่ได้จากตัดเฉือนซึ่งมีความร้อนสูงจะถูกระบายออกโดยไม่สัมผัสสกรู จึงไม่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่สกรู ส่งผลให้เม็ดมีด (Insert) ยังคงถูกจับยึดอยู่อย่างแข็งแรงมั่นคง เม็ดมีด (Insert) จึงใช้งานได้นาน
  • ระยะการสึกหรอของเม็ดมีดแบบ Tangential มีมากกว่าเม็ดมีด (Insert) แนวรัศมีทั่วไป ดังนั้นแม้เม็ดมีด (Insert) จะสึกหรอเท่ากัน ซึ่งเป็นระยะการสึกหรอที่เม็ดแนวรัศมีทั่วไปไม่สามารถใช้งานต่อได้แล้ว แต่เม็ด Tangential ก็ยังสามารถใช้งานต่อได้อีกนาน
  • การวางเม็ดแบบ Tangential นี้ จะใช้สันเม็ดในการกัดงาน แรงต้านที่เกิดขึ้นกับเม็ดมีด (Insert) จะส่งผ่านตามแนวสันเม็ดไปยังโฮลเดอร์โดยตรง ซึ่งEvotecถูกออกแบบมาให้มีหน้าสัมผัสเรียบแนบกับโฮลเดอร์ จึงแข็งแรงกว่า อายุการใช้งานยาวนานกว่า ซึ่งแตกต่างกับเม็ดมีด (Insert) แนวรัศมีแบบทั่วไปที่ขณะทำการตัดเฉือน แรงต้านจะเกิดขึ้นที่เม็ดและเกิดการบิดตัวได้ง่ายไปยังมุมเม็ดมีด (Insert)ด้านทแยงมุม อายุการใช้งานจึงน้อยกว่า และสกรูเกิดการคลายตัวได้ง่ายอีกด้วย
  • เม็ดมีด (Insert)แนวรัศมีทั่วไป เมื่อกัดงานไปสักระยะหนึ่งจะเกิดการสึกหรอ ส่งผลให้มุม R มีขนาดใหญ่ขึ้น เมื่อยังคงกัดงานต่อไประดับของพื้นผิวชิ้นงานจะสูงขึ้นกว่าตอนเริ่มต้น แต่เม็ดTangential ซึ่งวางเม็ดในแนวสันมีดนั้น แม้มุม R จะสึกหรอและใหญ่ขึ้นเช่นเดียวกัน แต่ก็ไม่ส่งผลกับระดับพื้นผิวของชิ้นงาน
  • แม้เดินSlot เม็ด Tangential ก็เกิดครีบน้อยกว่าเม็ดมีด (Insert) ทั่วไป
  • สามารถกินลึกได้เกือบเท่ากับระยะความสูงของเม็ด

Mold & DieForm Master Plus: Round insert (Positive)

โฮลเดอร์สำหรับเม็ดกลมที่ออกแบบมาให้เป็น Positive โดยวางเม็ดเอียงได้ 7องศากับแนวแกน เพื่อช่วยลดแรงในการตัดเฉือน ลดการสะท้านของการกัดงาน แต่วางเม็ดเป็น Negative ในแนวรัศมี เพื่อให้มีความแข็งแรง ด้วยดีไซน์แบบนี้จึงช่วยให้กัดงานได้เร็วขึ้น 25-50% จึงกัดงานลึกได้มากยิ่งขึ้นโดยเกิดการสะท้านน้อยลง เหมาะกับการกัดงานวัสดุทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นเหล็กเหนียว เหล็กหล่อ สแตนเลส หรือแม้แต่ อลูมิเนียมเม็ดมีด (Insert)มีขนาดตั้งแต่ R4-R10 มิลลิเมตร ส่วนโฮลเดอร์มีขนาดตั้งแต่ 16-160 มิลลิเมตร ทั้งแบบ Screw-in type และแบบ Shell Type

Form Master: Round insert (Negative)

โฮลเดอร์สำหรับเม็ดกลมสำหรับงานกัดเหล็กชุบแข็งโดยเฉพาะที่ออกแบบโฮลเดอร์มาให้วางเม็ดในแนวตรง หรือ 0 องศา เพื่อให้สามารถรับแรงในการตัดเฉือนเหล็กที่ความแข็งสูงในช่วง 44-63 HRC เม็ดกลมสามารถนำไปใช้กับโฮลเดอร์ได้ทั้ง 2 รุ่น และเม็ดกลมก็มีเกรดสำหรับเหล็กทั่วไป กับเกรดสำหรับเหล็กชุบแข็งโดยเฉพาะอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีเม็ดกลมประเภท CBN เพื่อรองรับการกัดงานเหล็กแข็งที่ต้องการอายุการใช้งานที่ยาวนานเป็นพิเศษForm Master Pro: Round insert with nick เม็ดดอกไม้ หรือเม็ดกลมแบบกัดหยาบ มีคุณสมบัติพิเศษที่ช่วยลดแรงในการกัดงานได้อย่างดีเยี่ยม เหมาะกับงานที่ต้องการลดภาระในการตัดเฉือน โดยเม็ดมีด (Insert)รุ่น Form Master Pro นี้ สามารถตัดเศษโลหะให้เป็นชิ้นเล็กๆได้ จึงลดภาระในการตัดเฉือนลง เหมาะกับงานที่มีลักษณะดังต่อไปนี้

  • งานลึกๆที่ต้องจับยาว ซึ่งปกติจะเกิดการสะท้านได้ง่าย แต่เมื่อใช้เม็ด Form Master Pro นี้ ก็จะสามารถจับทูลยาวๆ เพื่อกัดงานลึกๆได้
  • เหมาะกับเครื่องจักรที่มีความแข็งแรงน้อย
  • เหมาะกับชิ้นงานที่ไม่แข็งแรง หรือจับยึดไม่แข็งแรง
  • กรณีกัดงานลึกๆ ซึ่งเม็ดกลมธรรมดากินลึกได้เพียง 0.5 มิลลิเมตร เพราะเกิดการสะท้านถ้ากินลึกมากกว่านี้ หากเปลี่ยนมาใช้เม็ดดอกไม้ จะสามารถกินลึกได้มากถึง 2 มิลลิเมตร ที่ความสะท้านเท่ากัน และได้ค่าความเรียบผิวเท่ากัน
  • สามารถใช้กัดงานด้วยวิธี Plunging หรือฟีดในแนวแกน Z ได้ เช่นงานที่ต้องการความฉากแต่อยู่ในพื้นที่ลึกๆ แคบๆยากต่อการกัดงานในแนวรัศมี เช่น พื้นที่แคบที่ต้องใช้โฮลเดอร์ขนาด Dia.24 mm ที่ความลึก 200 มม เป็นต้น

High Feed Series

High Feed Series โฮลเดอร์รุ่น High Feed Dekaเหมาะกับการกัดงานด้วยอัตราการป้อนสูง เหมาะสำหรับงาน 2 แกน หรืองานปาดด้วยเม็ดมีด (Insert) 5 เหลี่ยมที่ใช้ทั้ง 2 ด้าน จึงใช้ได้มากถึง 10 มุม นอกจากจะทำงานได้เร็วแล้วยังประหยัดต้นทุนอีกด้วย เม็ดมีด (Insert)ถูกออกแบบมาให้มีความแข็งแรงสูง จึงทนทานแม้จะกัดงานที่ต้องสะดุด ก็ไม่แตกง่าย

Hi Feed Mini

Hi Feed Mini โฮลเดอร์ประเภทไฮฟีด ที่เหมาะกับงาน 3D ที่ใช้งานได้เพียงด้านเดียว แต่มีความคมมากเป็นพิเศษและ มีจำนวนมุมมากถึง 5 มุม เหมาะกับชิ้นงานวัสดุที่มีความเหนียวมาก แม้กระทั่งสแตนเลสหรือชิ้นส่วนอากาศยานก็สามารถกัดงานได้ดี ที่สำคัญเม็ดมีด (Insert)ถูกออกแบบมาให้มีความคมและหน้ามีดมีลักษณะพิเศษ ช่วยระบายความร้อนได้ดี ขณะทำการตัดเฉือนจึงเกิดความร้อนต่ำกว่าเม็ดไฮฟีดอื่นๆ

Form Master V: Modern Cutting Tools

Form Master V: Modern Cutting Tools เม็ดมีด (Insert) พิเศษที่กัดงานได้อย่างน่ามหัศจรรย์ ทั้งในงานกึ่งหยาบกึ่งละเอียด และงานเก็บผิวละเอียด โดยเม็ดมีด (Insert) รุ่น Form Master V นี้มีคุณสมบัติที่โดดเด่นคือ

  • ช่วยแก้ปัญหาการกัดผนังแม่พิมพ์ที่ต้องการผนังฉากลึกๆ ซึ่งมักจะเป็นเตเปอร์เนื่องจากทูลสึกก่อนกัดงานจบ โดย Form Master V สามารถควบคุมค่าความฉากได้อย่างน่าทึ่ง
  • มีความพิเศษกับงานที่มีความลึกมากๆ เพราะForm Master V ช่วยคุมค่าความแม่นยำของผิวงานได้อย่างดีเยี่ยม แม้จะกัดงานที่มีความลึกมากๆได้
  • เหมาะกับวัสดุหลายประเภท
    • เกรด IN2005 จะเหมาะกับเหล็กทั่วไป ใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเหล็กเหนียว เหล็กหล่อ สแตนเลส หรือเหล็กแข็ง
    • เกรด IN2006 สำหรับเหล็กชุบแข็งได้สูงถึง 63 HRC
    • เกรด IN05S สำหรับอลูมิเนียม
    • เกรด IN3005 สำหรับกราไฟต์
  • เหมาะกับงานเก็บผิวละเอียด(Finishing) หรือกึ่งหยาบกึ่งละเอียด(Semi-finishing)
  • สามารถกัดงานในแนวรัศมี หรือกัดงานแนวแกน Z (plung) ก็ได้
  • เม็ดมีด (Insert)มี 3 ขนาดของมุมR ให้เลือก คือ R1.0, R 1.5 และ R 2.0 mm
  • สามารถใช้ความเร็วตัด (Cutting speed, Vc) ได้ในช่วง 350-450 เมตรต่อนาที
  • อายุการใช้งานยาวนานมากกกกก
  • ใช้งานได้ 4 มุม
  • มีโฮลเดอร์ตั้งแต่ขนาด Dia. 16-100 mm ทั้งแบบ Screw-in type และแบบ Shell type

Extension holder system

InnoFit ก้านต่ออัจฉริยะ สำหรับกัดงานลึกๆ ด้วยระบบล็อคถึง 3 ชั้น จึงมีค่า Run out น้อยมากใช้งานง่าย สะดวกรวดเร็ว เมื่อต้องการกัดงานตื้นๆก็สามารถลดความยาวก้านต่อลงได้ หรือต้องการกัดงานลึกๆ จะเพิ่มความยาวก้านต่อได้อยู่เสมอ โดยมี 3 ขนาดคือ Dia. 49, 61, 78 mm ซึ่งจะประกอบเข้ากับโฮลเดอร์ที่มีขนาดใหญ่กว่า InnoFitนิดหน่อย เพื่อเลี่ยวการเสียดสี เช่น

  • Inno Fit ขนาด Dia.49 mm จะนำไปประกอบเข้ากับโฮลเดอร์ขนาด Dia. 52 มิลลิเมตร
  • Inno Fit ขนาด Dia.61 mm จะนำไปประกอบเข้ากับโฮลเดอร์ขนาด Dia. 63 หรือ 66 มิลลิเมตร
  • Inno Fit ขนาด Dia.78 mm จะนำไปประกอบเข้ากับโฮลเดอร์ขนาด Dia. 80 มิลลิเมตร

บทความผลิตภัณฑ์ Ingersoll