ปัญหาหลักของการใช้งานน้ำมันหล่อเย็นแบบผสมน้ำหรือน้ำมันคูลแลนท์ คือ “การเน่าเสียเร็วกว่าปกติ” เนื่องจากแบคทีเรียสามารถขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว ทำให้น้ำหล่อเย็นเสื่อมสภาพ และส่งกลิ่นเหม็นคล้ายแก๊สไข่เน่า ซึ่งส่งผลกระทบทั้งด้านสุขภาพและการทำงาน ในด้านสุขภาพผู้ปฏิบัติงานอาจเกิดอาการเวียนหัว อาการแพ้ทางผิวหนัง และระบบทางเดินหายใจ ในด้านการทำงาน ส่งผลให้ประสิทธิภาพการหล่อเย็นลดลง มีดตัดสึกหรอเร็วทำให้อายุการใช้งานของมีดตัดลดลง การเกิดสนิมขึ้นบนชิ้นงานและเครื่องจักร

การแก้ปัญหาน้ำมันหล่อเย็นเน่าเร็ว สามารถทำได้ในหลายแนวทาง

1. การดูแลเครื่องจักรไม่ให้มีปัญหาน้ำมันรั่ว และพยายามทำให้การหมุนเวียนของน้ำมันหล่อเย็นเกิดสม่ำเสมอ ไม่หยุดเครื่องจักรเป็นเวลานาน
2. การติดตั้ง Oil skimmer เพื่อกำจัดคราบน้ำมัน
3. การรักษาความเข้มข้นน้ำมันหล่อเย็นให้ถูกต้อง 
4. การเปลี่ยนประเภทของน้ำมันหล่อเย็น

ซึ่งในบทความนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องของการเปลี่ยนประเภทของน้ำมันหล่อเย็นกันครับ

น้ำมันหล่อเย็นมีทั้งหมด 4 ประเภทหลักๆ คือ

1. Soluble oil น้ำมันหล่อเย็นแบบน้ำมันผสมน้ำ หรือที่มีลักษณะคล้ายน้ำนม
2. Semi-synthetic น้ำมันหล่อเย็นแบบกึ่งสังเคราะห์ 
3. Fully Synthetic น้ำมันหล่อเย็นแบบสังเคราะห์ 
4. Neat oil น้ำมันหล่อลื่นแบบน้ำมันล้วน

ปัญหาที่เจอกันทั่วไปเมื่อใช้น้ำมันหล่อเย็นประเภท Soluble oil และ Semi-synthetic กับเครื่องจักรเก่าที่มีการรั่วของน้ำมันออกมาผสมกับน้ำหล่อเย็น หรือเครื่องจักรที่มีการใช้งานไม่ต่อเนื่องมีการหยุดเป็นเวลานาน น้ำมันหล่อเย็นจะเน่าเสียได้ง่าย จากสาเหตุการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่รวดเร็วขึ้นกว่าปกติในสภาพแวดล้อมดังกล่าว

น้ำมันหล่อเย็นแบบสังเคราะห์ (Fully synthetic) เป็นอีกทางเลือกที่จะเข้ามาแก้ปัญหาการเสื่อมสภาพที่เร็วเกินไปของน้ำมันหล่อเย็น น้ำมันประเภทนี้ไม่มีส่วนผสมของน้ำมันปิโตเลียมพื้นฐาน (Mineral oil) และอิมัลซิไฟเออร์ Emulsifier ที่เป็นอาหารของแบคทีเรีย ทำให้การเจริญเติบโตของแบคทีเรียเกิดขึ้นได้ยากขึ้น แต่ข้อจำกัดของน้ำมันหล่อเย็นแบบสังเคราะห์โดยทั่วไปคือให้การหล่อลื่นต่ำกว่าน้ำมันประเภทอื่นๆ การแก้ปัญหาดังกล่าวจึงต้องใช้สารหล่อลื่นชนิดพิเศษที่พัฒนาขึ้น เพื่อให้เกิดการหล่อลื่นที่มากพอต่อการทำงาน

ขอยกตัวอย่างการใช้งานตัดเฉือนชิ้นงานวัสดุเหล็กหล่อ (Cast iron) และเครื่องมือตัดเป็นเม็ดมีดคาร์ไบด์ เดิมใช้น้ำมันหล่อเย็นกึ่งสังเคราะห์ ซึ่งต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันที่เกิดการเสื่อมสภาพทุกๆ 2-3 เดือน และเกิดปัญหาเรื่องสนิมขึ้นบนชิ้นงาน

เมื่อเปลี่ยนมาใช้ S-Lube ซึ่งเป็นน้ำมันหล่อเย็นประเภทสังเคราะห์ (Fully synthetic) ผลลัพธ์ที่ได้มีดังนี้

• ช่วยแก้ปัญหาน้ำมันหล่อเย็นเน่าเสียเร็ว ช่วยยืดอายุการใช้งานจาก 2-3 เดือน เป็น 1 ปีหรือมากกว่า
• ลดปัญหาเรื่องสนิมที่เกิดขึ้นบนชิ้นงาน
• ลดปริมาณน้ำมันเสียที่ต้องนำไปกำจัดลง 2-3 เท่า
• การดูแลรักษาน้อยกว่า Semi-synthetic
• ลดปัญหาเรื่องกลิ่นเหม็นน้ำมันที่เน่าเสียและส่งผลต่อสุขภาพพนักงาน
• ช่วยลดต้นทุนลงกว่า 15%

นอกเหนือจาก S-Lube แล้ว เรายังมี S-Lube HP สำหรับการตัดเฉือนงานหนัก และ S-Lube AL สำหรับการตัดเฉือนชิ้นงานอลูมินั่ม รวมถึงน้ำมันหล่อเย็นกึ่งสังเคราะที่เหมาะกับการผลิตเฉพาะทางในกลุ่ม G-Lube น้ำมันอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น น้ำยาล้างชิ้นงาน น้ำยาพ่นหน้าแม่พิมพ์ไดแคสติ้ง ที่พร้อมให้บริการแก่ทุกท่าน