ดอกสว่านมีกี่ชนิด? เลือกอย่างไรให้เหมาะสมกับการใช้งาน
September 16, 2024Nakanishi Motor Spindle รุ่นใหม่ที่พัฒนาให้มีแรงบิดสูงขึ้น
September 20, 2024การดูแลและการบำรุงรักษาน้ำมันตัดกลึงโลหะนั้นมีความสำคัญอย่างมาก เพราะนอกจากจะช่วยยืดอายุการใช้งานของน้ำมันตัดกลึงโลหะ และทำให้การตัดกลึงมีประสิทธิภาพสูงสุดแล้ว ยังส่งผลต่อการลดต้นทุนและเพิ่มคุณภาพของชิ้นงานให้ดีขึ้นอีกด้วย ในบทความนี้จะอธิบายวิธีการดูแลน้ำมันตัดกลึงโลหะ
1. การตรวจสอบคุณภาพของน้ำมันตัดกลึงโลหะ
1.1 การตรวจสอบค่าความเข้มข้น (Concentration)
การตรวจสอบค่าความเข้มข้นของน้ำมันตัดกลึงโลหะนั้นเป็นสิ่งสำคัญ เพราะค่าความเข้มข้นที่เหมาะสมตามที่ผู้ผลิตแนะนำ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการหล่อลื่นและระบายความร้อนได้เป็นอย่างดี การตรวจสอบค่าความเข้มข้นนั้นทำได้โดยใช้เครื่องวัดค่าความเข้มข้น (Refractometer)
1.2 การตรวจสอบค่า pH
ค่า pH ของน้ำมันตัดกลึงโลหะ ควรอยู่ในช่วงระหว่าง 8.5 ถึง 9.5 หากค่า pH ต่ำเกินไปอาจทำให้เกิดการกัดกร่อนของเครื่องมือและชิ้นงาน ส่วนค่า pH ที่สูงเกินไป อาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง การตรวจสอบค่า pH นั้นสามารถทำได้โดยใช้กระดาษวัดค่า pH หรือเครื่องวัดค่า pH
1.3 การตรวจสอบการสะสมของสิ่งสกปรก
การสะสมของเศษโลหะและสิ่งสกปรกในน้ำมันตัดกลึงโลหะ จะทำให้ประสิทธิภาพของน้ำมันลดลง เพิ่มการสึกหรอของเครื่องมืออีกด้วย การตรวจสอบและกำจัดสิ่งสกปรกเหล่านี้ สามารถทำได้โดยการกรองหรือคัดแยกน้ำมันตัดกลึงโลหะ ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์
2. การบำรุงรักษาน้ำมันตัดกลึงโลหะ
2.1 การกรองและกำจัดสิ่งปนเปื้อน (Tramp Oil)
การกรองสิ่งสกปรกและการดูดสิ่งปนเปื้อนในน้ำมัน เป็นวิธีในการกำจัดสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่ในน้ำมัน ช่วยให้น้ำมันตัดกลึงมีคุณภาพที่ดีขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและช่วยยึดอายุการใช้งานให้ยาวนานมากยิ่งขึ้น
เครื่องดูดคราบน้ำมัน รุ่น Coolant Saver ยืดอายุการใช้งานและรักษาคุณภาพน้ำมันหล่อเย็นได้เป็นอย่างดี
2.2 การเติมน้ำมันตัดกลึงโลหะเพื่อปรับความเข้มข้น (Top-Up)
การเติมน้ำมันตัดกลึงโลหะ (Top-Up) ควรทำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อรักษาระดับความเข้มข้นและค่า pH ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม การเติมส่วนผสมนั้นควรใช้สารละลายที่ถูกต้องตามที่ผู้ผลิตกำหนด และควรทำการตรวจสอบค่าความเข้มข้นและค่า pH ทุกครั้งที่เติมส่วนผสมลงในน้ำมันตัดกลึงโลหะ
2.3 การเปลี่ยนน้ำมันตัดกลึงโลหะ (Oil Change)
การเปลี่ยนน้ำมันตัดกลึงโลหะควรทำตามระยะเวลาที่ผู้ผลิตแนะนำ หรือเมื่อพบว่าน้ำมันนั้นเริ่มเกิดการเสื่อมสภาพ การเปลี่ยนน้ำมันตัดกลึงโลหะจะช่วยรักษาประสิทธิภาพในการหล่อลื่นและระบายความร้อน ทำให้น้ำมันตัดกลึงโลหะมีคุณภาพที่ดี และเหมาะสมกับสภาวะการตัดกลึง
3. การจัดการกับสารเคมีและของเสีย
3.1 การจัดการสารเคมี
น้ำมันตัดกลึงโลหะประกอบไปด้วยสารเคมีที่จะต้องการจัดการอย่างถูกต้อง เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งานและสิ่งแวดล้อม เราควรปฏิบัติตามข้อกำหนดและคำแนะนำของผู้ผลิตในการจัดการสารเคมีเหล่านี้
3.2 การจัดการของเสีย
น้ำมันตัดกลึงโลหะที่ใช้แล้ว ควรจัดการอย่างถูกต้องตามกฎหมายและข้อกำหนดของผู้ผลิต การรีไซเคิลน้ำมันตัดกลึงโลหะหรือการกำจัดอย่างถูกต้องนั้น จะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
4. การฝึกอบรมและการจัดการ
4.1 การฝึกอบรมผู้ใช้งาน
การฝึกอบรมผู้ใช้งานเกี่ยวกับการดูแลและบำรุงรักษาตัดกลึงโลหะก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน เพราะจะทำให้ผู้ใช้งานนั้นสามารถใช้งานได้อย่างถูกต้องและเกิดประสิทธิภาพ ดังนั้นจึงควรมีการฝึกอบรมเป็นประจำและให้ข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องอยู่เสมอ
4.2 การจัดการข้อมูล
การจัดการข้อมูลเกี่ยวกับการใช้น้ำมันตัดกลึงโลหะ เช่น การบันทึกค่าความเข้มข้น ค่า pH และการกรองน้ำมัน จะช่วยในเรื่องของการวิเคราะห์และปรับปรุงกระบวนการผลิต รวมทั้งช่วยในการติดตามและป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้
การดูแลและบำรุงรักษาน้ำมันตัดกลึงโลหะอย่างถูกต้อง จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ลดการสึกหรอของเครื่องมือ และรักษาคุณภาพของชิ้นงาน นอกจากนี้ยังช่วยลดต้นทุนในการผลิตและเพิ่มความปลอดภัยในการทำงาน ดังนั้นเราจึงควรให้ความสำคัญกับการดูแลและบำรุงรักษาน้ำมันตัดกลึงโลหะเป็นอย่างยิ่ง
LUBRICAN เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทีมวิศวกร Factory Max กับ Supplier ชั้นนำหลากหลายประเทศ ร่วมมือกันออกแบบ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ น้ำมันหล่อเย็น น้ำมันสปาร์ค EDM และเคมีอุตสาหกรรม ที่เหมาะกับสภาพแวดล้อม และลักษณะการใช้งานในเมืองไทยโดยเฉพาะ หากท่านใดต้องการปรึกษาหรือขอคำแนะนำเกี่ยวกับการเลือกใช้น้ำมันในอุตสาหกรรม แฟ็คทอรี่ แม๊กซ์ ยินดีให้บริการ